ทำไมรูจมูกของคนเรามักจะตันข้างนึง ?
………………………………………………………………..
บทความนี้ได้รับการสนับสนุนจาก Ocylens คอนแทคเลนส์รายวัน
………………………………………………………………..
มีใครเคยรู้สึกไหมครับว่า
จมูกของเราหมือนจะหายใจได้ทีละข้าง คือ จะมีข้างนึงหายใจได้โล่งกว่าอีกข้าง ? (อันนี้ถามจริง ๆ แบบอยากให้ช่วยแชร์คำตอบ เพราะผมไม่รู้ว่ามีคนที่หายใจโล่งทั้งสองข้างมากน้อยแค่ไหน)
แล้วอาการจมูกตันแบบนี้ ก็มักจะสลับข้างกันเป็น
บางครั้งรูจมูกข้างซ้ายก็โล่งกว่า
บางครั้งเป็นรูจมูกขวาที่โล่งกว่า
ถ้าเคยเป็นแบบนี้นะครับ อาจะไม่ได้แปลว่าคุณเป็นโรคภูมิแพ้ แต่คุณกำลังสัมผัสกลไกที่น่าสนใจของร่างกายที่มีชื่อเรียกว่า nasal cycle
คำถามคือ จมูกเราสลับข้างกันทำงานเพื่ออะไร ?
แรกสุดเลยนะครับ เราต้องรู้ก่อนว่า เวลาที่เรารู้สึกว่าจมูกมันตันข้างนึงนั้น ส่วนใหญ่จะเกิดจากการที่เนื้อเยื่อที่บุภายในโพรงจมูกมันบวมขึ้น ผลคือ ช่องที่ลมจะผ่านได้มีขนาดเล็กลง
ดังนั้น ลมก็จะเข้ารูจมูกอีกข้างมากกว่า
กลับมาที่คำถามว่า จมูกเราสลับข้างกันทำงานเพื่ออะไร ?
คำอธิบายที่เชื่อกันมากที่สุดในปัจจุบันคือ
การทำงานแบบนี้ของจมูกมีประโยชน์อย่างน้อย 2 ข้อด้วยกัน
หนึ่ง ให้รูจมูกข้างหนึ่งได้พัก
สอง ทำให้การรับกลิ่นทำงานดีขึ้น
………………………………………………………………..
คืออย่างนี้ครับ
ก่อนอื่น เราต้องเข้าใจหน้าที่ของจมูกกันก่อน
หน้าที่หนึ่งของรูจมูกคือ ทำหน้าที่เป็นเครื่องปรับอากาศและกรองอากาศ ให้เหมาะสมก่อนที่อากาศจะไหลผ่านลงไปสู่ปอดทั้งสองข้าง
ปอดของเราจะมีความเรื่องมากเกี่ยวกับอากาศนิดนึง คือ ฝุ่นก็ไม่ชอบ อากาศเย็นไปก็ไม่ชอบ แห้งไปก็ไม่ได้
จมูก (และโพรงไซนัส) จึงคอยปรับอากาศที่หายใจเข้าไปให้ อุ่น ชื้นและปราศจากฝุ่นใหญ่ ๆ และนี่ยังอธิบายว่าทำไมเวลาเราหายใจทางปากนาน ๆ เราจะรู้สึกคอแห้ง แสบ เพราะอากาศที่ยังไม่ถูกปรับจะทำให้เยื่อบุในลำคอแห้ง (และเย็นถ้าหายใจในเมืองหนาว)
แต่จมูกก็ทำงานได้แค่ระดับหนึ่งถ้าทำงานมากไป (เจออากาศที่แห้งและเย็นมาก ๆ) ผิวที่บุจมูกก็จะแห้งแตก (แสบจมูก อาจจะมีเลือดกำเดาไหล)
แต่ร่างกายก็จะมีกลไกป้องกัน คือ ก่อนที่จมูกจะแห้งเพราะทำงานมากไป ระบบประสาทอัตโนมัติก็จะทำให้เยื่อบุจมูกมีเลือดมาคั่งเพิ่มขึ้น
เลือดที่อุ่น ๆ จะทำให้ผนังที่บุด้านในของโพรงจมูกบวมขึ้น จนอากาศผ่านเข้าได้ลดลง จนเรารู้สึกว่าจมูกข้างนั้นตัน จมูกอีกข้างก็จะรับภาระงานเพิ่มขึ้นแทน
โดยสรุปก็คือ ว่า การสลับกันทำงาน เป็นกลไกให้จมูกแต่ละข้างทำงานหนักเกินไป โดยเฉพาะเมื่อเราต้องหายใจเอาอากาศที่แห้งและเย็น (เช่น ฤดูหนาว หรือในห้องแอร์)
คราวนี้มาถึงประโยชน์ข้อที่สอง นั่นก็คือ การรับกลิ่นที่ดีขึ้น
ปกติเวลาเราพูดว่า เราได้กลิ่น จริงๆ มันก็คือ สารเคมีที่ลอยอยู่ในอากาศเข้าไปจับกับ ‘ตัวจับ’ ที่อยู่ภายในช่องจมูก
แต่สารเคมีในอากาศที่ทำให้เกิดกลิ่นนั้น แต่ละตัวก็มีคุณสมบัติต่างกันไป บางตัวจับกับตัวจับ ได้ง่าย บางตัวจับกับตัวจับ ได้ยาก
สารเคมีที่จับกับ ‘ตัวจับ’ ยาก ร่างกายก็จะอยากให้สารเคมีนั้นไหลผ่านจมูกช้า ๆ อยู่ในจมูกนาน ๆ ถ้าลมผ่านจากจมูกลงไปที่ปอดได้เร็ว เราจะได้กลิ่นสารนั้นไม่ดี หรือ อาจจะพูดง่ายๆว่า จมูกจับกลิ่นไม่ทัน
สารเคมีที่จับกับ ‘ตัวจับ’ ได้ง่าย ร่างกายก็จะอยากให้สารนั้นเข้าจมูกได้เร็ว เพื่อให้ผ่านเข้าไปในด้านในลึก ๆ ของรูจมูก ที่มีตัวจับหนาแน่นกว่า
ดังนั้นการที่จมูกเรา ตันข้างนึง โล่งข้างนึง จึงช่วยให้เราดมกลิ่นของสารเคมีทั้งสองแบบที่มีลักษณะต่างกัน ได้ดีทั้งสองแบบนั่นเอง
………………………………………………………………..
ได้คำตอบกันแล้วนะครับว่าทำไมจมูกเราบางครั้งจึงตันข้างนึง โล่งข้างนึง
รู้แบบนี้แล้ว มีใครรู้สึกไหมครับว่า จากเดิมที่คิดว่า ร่างกายเราผิดปกติ แต่พอเข้าใจกลไกการทำงานแล้ว รู้สึกขึ้นมาว่า ร่างกายเราฉลาดกว่าที่คิดแหะ
แถมอีกนิด ถ้าใครไม่ชอบภาวะจมูกตัน แล้วอยากหายใจโล่ง ๆ เทคนิคง่าย ๆ ที่ทำได้คือ ออกกำลังกายครับ ลองวิดพื้น หรือ squat (ลุกนั่ง) ไปสักระยะ จมูกเราจะโล่งขึ้นเอง เพราะเมื่อเราออกกำลังกาย เรากำลังบอกร่างกายว่า ฉันต้องการออกซิเจนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อเพิ่มแล้วนะ
เดี๋ยวสักพักจมูกจะเปิดโล่งให้ทั้งสองข้างเองครับ
อ้อ แล้วถ้าชอบวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับร่างกายแบบนี้นะครับ ลองหาหนังสือ เรื่องเล่าจากร่างกาย หรือ 500 ล้านปีของความรัก มาอ่านกันดูนะครับ
สามารถซื้อออนไลน์ได้ที่ https://shopee.co.th/cthada
………………………………………………………………..